เช็กเลย ค่าโอนบ้านคำนวณยังไง เสียเท่าไหร่ ใครต้องจ่าย

เมื่อมีการซื้อขายบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ นอกจากราคาซื้อขายที่ต้องจ่ายแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องคำนึงถึง หนึ่งในนั้นคือ “ค่าโอนบ้าน” หรือ “ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน” ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์จากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ ใครที่สงสัยว่าค่าโอนบ้านคำนวณยังไง? วันนี้เราจะมาเช็กกันว่า ค่าโอนบ้านคำนวณเสียเท่าไหร่ และใครต้องจ่าย เพื่อให้คุณสามารถจัดการค่าใช้จ่ายเหมาะสม 

ค่าโอนบ้านคืออะไร?

ค่าโอนบ้านหรือค่าธรรมเนียมโอนบ้าน คือ ค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระให้กับสำนักงานที่ดินเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้ว ค่าโอนบ้านจะถูกกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาประเมินของอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งราคาประเมินนี้จะถูกกำหนดโดยกรมที่ดิน 

วิธีคำนวณค่าธรรมเนียมโอนบ้าน

สำหรับค่าธรรมเนียมโอนบ้านเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องพิจารณาเมื่อมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้ว ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาประเมินของอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการคำนวณค่าธรรมเนียมโอนบ้านนั้นสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

1. รู้จักราคาประเมินของอสังหาริมทรัพย์
2. อัตราค่าธรรมเนียมโอนบ้าน
3. ขั้นตอนการคำนวณค่าธรรมเนียมโอนบ้าน
4. ประเมินปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อค่าธรรมเนียมโอน
5. เจรจาเกี่ยวกับการแบ่งค่าธรรมเนียมโอนได้

การโอนบ้านมีขั้นตอนอะไรบ้าง?

การโอนบ้าน ถือเป็นกระบวนการสำคัญ เมื่อมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีขั้นตอนหลายอย่างที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้การโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างถูกต้องและราบรื่น แล้วการโอนบ้านมีขั้นตอนอะไรบ้าง? สามารถดูรายละเอียดได้ตามด้านล่างนี้ 

1. การเตรียมเอกสาร
2. การตรวจสอบสถานะของอสังหาริมทรัพย์
3. การทำสัญญาซื้อขาย
4. การชำระเงิน
5. การไปยังสำนักงานที่ดิน
6. การกรอกแบบฟอร์มโอนกรรมสิทธิ์
7. การชำระค่าธรรมเนียมโอนบ้าน
8. การรับเอกสารกรรมสิทธิ์ใหม่
9. การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลในทะเบียนบ้าน

ค่าใช้จ่ายในการโอนบ้านมีอะไรบ้าง ใครต้องจ่าย

การโอนบ้านเป็นขั้นตอนสำคัญในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่เพียงแต่มีการชำระเงินค่าบ้านเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น ในบทความนี้เราจะมาดูค่าใช้จ่ายในการโอนบ้านว่ามีอะไรบ้าง และใครเป็นผู้รับผิดชอบในการจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้ 

1. ค่าธรรมเนียมการโอน 

ค่าธรรมเนียมโอนบ้านเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้วอยู่ที่ประมาณ 2% ของราคาประเมินของอสังหาริมทรัพย์ และสิ่งปลูกสร้าง ถ้าหากบ้านใหม่ หรือบ้านมือสองที่ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท การลดค่าโอนบ้านจะเหลือเพียง 0.01% เท่านั้น ตามมาตรการกระตุ้น ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 67 ซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในการจ่ายค่าธรรมเนียมนี้ 

2. ค่าจดจำนอง

ค่าจดจำนอง (Mortgage Registration Fee) คือ ค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระเมื่อมีการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยค่าธรรมเนียมนี้จะถูกกำหนดตามราคาประเมินของอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกนำไปจดจำนอง อยู่ที่ประมาณ 1% ของยอดเงินกู้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในด้านค่าจดจำนอง จะตกเป็นความรับผิดชอบของผู้ซื้อ 

3. ค่าอากรแสตมป์

ค่าอากรแสตมป์ เป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้วอยู่ที่ 0.5% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน (แล้วแต่ราคาใดจะสูงกว่า)  แต่ไม่ต่ำกว่าราคาประเมินทุนทรัพย์ ซึ่งถ้าต่ำกว่าให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์คำนวณ แต่ถ้าหากเราเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าอากรแสตมป์อีก

4. ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) คือ ภาษีที่ต้องชำระจากรายได้ที่ได้รับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยจะคำนวณจากกำไรที่เกิดขึ้นจากการขาย ซึ่งกำไรนี้คือส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาต้นทุน (รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขาย) สำหรับผู้ที่ต้องจ่ายค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะถือว่าความรับผิดชอบของผู้ขาย ที่จ่ายในส่วนนี้ 

5. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ

ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ (Specific Business Tax) คือ ภาษีที่ต้องชำระเมื่อมีการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยจะคิดจากกำไรที่เกิดขึ้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งภาษีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในตลาดและสร้างรายได้ให้กับรัฐ โดยทั่วไปแล้วจะถูกคิดจากกำไรจากการขาย และเป็นความรับผิดชอบของผู้ขาย

สรุป

การโอนบ้านเป็นกระบวนการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายหลายประเภท ดังนั้น การที่เราเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการโอนบ้าน จะสามารถช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายร่วมกันวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตได้ ใครที่มองหาโครงการบ้านเดี่ยว สามารถเข้าไปดูโครงการจาก CP Land ได้เลย