บทความ

10 วิธีดูแลบ้านหน้าฝนให้คงทนยาวนาน เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้พักอาศัย

5 วิธีดูแลบ้านต้อนรับหน้าฝน

การดูแลบ้านหน้าฝนเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะฝนสามารถที่ตกแรง ๆ หรือตกนาน ๆ อาจทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านของเราได้ ทั้งการรั่วซึมของหลังคา ผนังชื้น การสะสมของน้ำในรางน้ำฝน หรือปัญหาอื่น ๆ ซึ่งความเสียหายนี้อาจเป็นความเสียหายที่ใหญ่ขึ้นจนส่งผลกระทบกับค่าใช้จ่ายและชีวิตการอยู่อาศัยของเราได้ ดังนั้น เพื่อให้บ้านของเราคงทนยาวนานและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้พักอาศัย บทความนี้เราจึงนำ 10 วิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพื่อดูแลบ้านหน้าฝนของเรามาฝากกัน

 

ทำไมต้องดูแลบ้านหน้าฝน

หน้าฝนเป็นช่วงเวลาที่บ้านของเราต้องเผชิญกับความชื้นและน้ำเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพของวัสดุต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นไม้ ปูน หรือเหล็ก เมื่อวัสดุเหล่านี้สัมผัสกับน้ำและความชื้นเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ เช่น ไม้บวม ปูนแตกร้าว หรือเหล็กขึ้นสนิม นอกจากนี้ ความชื้นยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเชื้อราและแมลงต่าง ๆ เข้ามารบกวนภายในบ้าน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้พักอาศัย การดูแลบ้านหน้าฝนจึงเป็นการป้องกันปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มต้น และช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้านให้คงทนยาวนานมากขึ้น

 

10 วิธีดูแลบ้านหน้าฝน ให้คงทนยาวนาน

การเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับหน้าฝนไม่ใช่เรื่องยาก หากเรารู้จักวิธีการดูแลและป้องกันที่ถูกต้อง บ้านของเราก็จะปลอดภัย คงทนยาวนาน หมดกังวลกับการใช้ชีวิตในช่วงหน้าฝน โดยวิธีดูแลบ้านหน้าฝนอย่างถูกต้อง มีดังนี้ 

 

1. ตรวจเช็กรอยรั่วซึมของหลังคา ฝ้า และผนัง

การตรวจสอบรอยรั่วซึมของหลังคา ฝ้า และผนังเป็นสิ่งแรกที่เราควรทำก่อนหน้าฝนจะมาถึง หมั่นสังเกตรอยร้าว รอยแตกร้าวเล็ก ๆ บนหลังคา ฝ้า หรือผนังภายในและภายนอกบ้าน ถ้าพบควรรีบทำการซ่อมแซมทันที เพื่อป้องกันน้ำฝนซึมเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาความชื้นสะสมและเชื้อราในระยะยาว 

 

2. ทำความสะอาดรางน้ำฝน

การทำความสะอาดรางน้ำฝนเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามในการดูแลบ้านหน้าฝน เพราะรางน้ำฝนที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือขยะอื่น ๆ อาจทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรางน้ำฝนอุดตัน น้ำฝนจะไหลย้อนเข้ามาในบ้าน หรือไหลลงมาบริเวณที่ไม่ควรน้ำตกลงไป ทำให้เกิดความเสียหายทั้งกับโครงสร้างของบ้านและพื้นที่ภายนอก การทำความสะอาดรางน้ำฝนควรทำเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝนเพื่อให้ระบบระบายน้ำทำงานได้ปกติ

 

3. ย้ายเฟอร์นิเจอร์

การดูแลเฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยในช่วงหน้าฝน เฟอร์นิเจอร์ที่วางอยู่ภายนอกบ้าน อาจถูกน้ำฝนสาดและเกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้หรือโลหะ ซึ่งอาจเกิดการบวม โก่ง หรือขึ้นสนิมได้หากสัมผัสกับน้ำฝนเป็นเวลานาน การย้ายเฟอร์นิเจอร์เข้าไปเก็บไว้ในที่ร่มหรือคลุมด้วยผ้ากันน้ำเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเฟอร์นิเจอร์ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นอีกด้วย

 

4. ต่อเติมกันสาดหรือชายคา

การต่อเติมกันสาดหรือชายคาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันน้ำฝนสาดเข้ามาภายในบ้าน กันสาดสามารถช่วยป้องกันประตู หน้าต่าง และผนังไม่ให้โดนน้ำฝนโดยตรง ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำ คราบเชื้อรา และการพังทลายของวัสดุที่ถูกน้ำฝนสาด นอกจากนี้ การต่อเติมกันสาดยังช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายนอกบ้าน ให้สามารถใช้งานได้แม้ในช่วงที่ฝนตก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้อีกด้วย

 

5. ไม้ค้ำให้ต้นไม้ใหม่

สำหรับบ้านที่มีการปลูกต้นไม้ใหม่ หรือปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่มีลมแรง ควรตรวจสอบการใช้ไม้ค้ำเพื่อป้องกันลำต้นเอียงหรือล้มลงเมื่อมีลมพัดแรง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มีลมแรงเป็นประจำ การใช้ไม้ค้ำจะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและตรง ไม่เกิดการเอียงหรือโค่นล้ม และยังช่วยป้องกันความเสียหายหากต้นไม้ล้มโดนบ้านหรือทรัพย์สินอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้

 

6. ตัดกิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ตัวบ้าน

กิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ตัวบ้านสามารถเป็นอันตรายได้ในช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะเมื่อเกิดพายุฝนลมแรง กิ่งไม้อาจหักลงมาและทำลายหลังคา หรือผนังบ้านได้ การตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ในขนาดที่ปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ และยังช่วยให้ต้นไม้เติบโตอย่างมีสุขภาพดี ไม่เกะกะหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้พักอาศัย

 

7. ขัดพื้นอย่างสม่ำเสมอ

พื้นบริเวณที่มีน้ำขังเป็นประจำอาจเกิดคราบตะไคร่สะสม ซึ่งทำให้พื้นลื่นและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การขัดล้างพื้นเพื่อลดคราบตะไคร่เป็นการดูแลความสะอาดและความปลอดภัยภายในบ้าน ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมและทำการขัดล้างอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณรอบบ้านหรือทางเดินที่มักจะมีน้ำขังในช่วงหน้าฝน

 

8. กำจัดสัตว์หน้าฝน

ความชื้นและน้ำฝนเป็นปัจจัยที่ทำให้สัตว์และแมลงเข้ามารบกวนภายในบ้านได้ง่ายขึ้น เช่น มด ปลวก และ ยุง การกำจัดสัตว์และแมลงเหล่านี้เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ ด้วยวิธีการใช้น้ำยากำจัดแมลงหรือการปิดช่องทางต่าง ๆ ที่แมลงอาจเข้ามาได้ รวมถึงการรักษาความสะอาดและจัดการกับแหล่งน้ำขังภายในบ้านก็เป็นวิธีที่ช่วยลดปัญหานี้สัตว์หน้าฝนกวนใจ และเป็นวิธีดูแลบ้านหน้าฝนจากสร้างความเสียหายในบ้านได้

 

9. ทาสีบ้าน

การทาสีบ้านใหม่เตรียมรับกับหน้าฝนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันน้ำและความชื้นจากฝน สีทาบ้านที่มีคุณสมบัติกันน้ำและเชื้อราจะช่วยให้ผนังบ้านทนต่อสภาพอากาศที่เปียกชื้นได้ดียิ่งขึ้น การทาสีบ้านยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านและเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินของคุณในระยะยาว

 

10. ล้างท่อระบายน้ำ

ท่อระบายน้ำที่อุดตันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำท่วมขังในบริเวณรอบบ้าน การล้างท่อระบายน้ำเพื่อขจัดเศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือขยะอื่น ๆ ที่สะสมอยู่จะช่วยให้ระบบระบายน้ำทำงานได้ดีขึ้น และป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณบ้านที่อาจเกิดความเสียหายได้ 

การดูแลบ้านหน้าฝนเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม หากไม่รีบดูแลและแก้ไขอาจนำไปสู่การซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูง และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัยได้ นอกจากนี้ ถ้าเราเลือกบ้านมีมาตรฐาน แข็งแรง คงทน ก็เป็นวิธีที่ช่วยคงรักษาสภาพบ้านและสร้างความมั่นใจให้เราได้ดีตั้งแต่เริ่มต้น สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านที่มีคุณภาพและการออกแบบที่คำนึงถึงความทนทานในทุกฤดูกาล สามารถเข้ามาเยี่ยมชมโครงการบ้านเดี่ยว จาก CP LAND Property ได้เลย 

#CPLAND #CPLANDProperty

 

#CPLAND #CPLANDProperty