บทความ

รวมสิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อคอนโด พร้อมแนะนำเงินเดือนเท่านี้ ผ่อนเท่าไหร่

รวมสิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อคอนโด พร้อมแนะนำเงินเดือนเท่านี้ ผ่อนเท่าไหร่

รวมสิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อคอนโด พร้อมแนะนำเงินเดือนเท่านี้ ผ่อนเท่าไหร่

ในปัจจุบัน คอนโดฯ เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน เพราะนอกจากคอนโดส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมือง เดินทางสะดวก และรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแล้ว ยังสามารถต่อยอดการลงทุนด้วยการปล่อยเช่าได้อีกด้วย 

เมื่อได้เห็นข้อดีเหล่านี้แล้ว หลาย ๆ คนก็คงอยากรีบไปขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อคอนโดกับธนาคารกันแล้วใช่ไหมล่ะ!? แต่ CP LAND อยากให้คุณหยุดความคิดนั้นไว้ก่อน หากยังไม่รู้ว่า การกู้ซื้อคอนโดผ่อนกี่ปี เงินเดือนเท่านี้ต้องผ่อนเท่าไหร่ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อคอนโด ซึ่ง CP LAND ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องรู้มาไว้ในบทความนี้ให้แล้ว ใครอยากซื้อคอนโดแต่ไม่มีเงินก้อน และต้องขอสินเชื่อกับธนาคาร ต้องติดตามให้จบ!

5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนกู้ซื้อคอนโด

แม้ว่าจะมีหลายสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจกู้ซื้อคอนโด แต่ในบทความนี้ CP LAND จะมาแนะนำ 5 สิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมาก และต้องรู้ก่อนกู้ซื้อคอนโด ซึ่งทั้ง 5 สิ่งนี้จะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมตัวซื้อคอนโดของคุณ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. หาข้อมูลสินเชื่อกับธนาคารที่ตอบโจทย์

เนื่องจากในปัจจุบัน ธนาคารเกือบทุกแห่งมีการออกสินเชื่อคอนโดที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งแต่ละธนาคารก็มีการกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ทั้งอัตราดอกเบี้ย วงเงิน ระยะเวลาในการผ่อนชำระ และโปรโมชัน ทำให้การหาข้อมูลสินเชื่อของแต่ละธนาคารเพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน จะช่วยให้คุณเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่า ธนาคารไหนที่กำหนดเงื่อนไข และรายละเอียดสินเชื่อ รวมถึงมีโปรโมชันที่เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณมากที่สุด ที่สำคัญคือต้องให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถผ่อนชำระคืนทั้งหมดได้ไวขึ้น และเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้เงินคุณมากที่สุด

2. เข้าใจเรื่องดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ย เป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการพิจารณาเลือกสินเชื่อคอนโดกับธนาคาร เพราะหากคุณตัดสินใจกู้ซื้อคอนโดกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ จะช่วยให้เงินที่คุณจ่ายไปถูกนำไปหักกับเงินต้นมากกว่าดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถผ่อนชำระสินเชื่อหมดไวขึ้นได้ โดยดอกเบี้ยที่นิยมใช้กับสินเชื่อบ้าน-คอนโดมีทั้งหมด 2 ประเภท ดังนี้

  • ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยที่มีการกำหนดไว้แบบคงที่ตลอดอายุสัญญา หรือในช่วงเวลาที่กำหนด โดยไม่มีการปรับขึ้นหรือลดลง ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น
  • ดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) อัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้ถูกกำหนดว่าจะมีการปรับล่วงหน้า ปรับปีละกี่ครั้ง และไม่ได้มีค่าแน่นอน โดยจะมีการผันแปรไปตามสภาพเศรษฐกิจ และต้นทุนทางการเงินของธนาคาร ซึ่งดอกเบี้ยประเภทนี้อาจทำให้ผู้กู้ไม่สามารถวางแผนการเงินได้ เนื่องจากต้องผ่อนชำระแต่ละเดือนไม่เท่ากัน

3. ประเมินความสามารถในการผ่อน

เมื่อพิจารณาได้แล้วว่า จะกู้ซื้อคอนโดกับธนาคารไหน และมีข้อมูล รวมถึงรายละเอียดสินเชื่อนั้น ๆ ทั้งวงเงินกู้สูงสุด  อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาในการกู้ โปรโมชัน และส่วนลด สิ่งต่อไปที่ต้องทำก็คือ การนำตัวเลขเหล่านี้มาคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระ ว่าแต่ละเดือนต้องผ่อนเท่าไหร่ เพื่อให้คุณสามารถเตรียมความพร้อมด้านการเงิน และวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือน รวมถึงวางแผนเก็บออมเงินได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้ยังรวมถึงการประเมินวินัยในการผ่อนชำระของคุณ โดยสามารถตรวจสอบได้จากเครดิตทางการเงินของตัวเอง ดังนี้

  • วินัยในการชำระหนี้ โดยธนาคารจะทำการตรวจเช็กประวัติทางการเงินย้อนหลังผ่านเครดิตบูโร เพื่อประเมินวินัยในการชำระหนี้ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น ประวัติการชำระล่าช้า ประวัติการผิดนัดชำระหนี้ สถานะการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เป็นต้น ดังนั้น หากคุณรู้ตัวว่าคุณมีประวัติทางการเงินที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ก็ควรจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชำระหนี้ เพื่อสร้างประวัติเครดิตบูโรให้ดี
  • ภาระหนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยธนาคารจะพิจารณาจากหนี้สินโดยรวมในปัจจุบันว่ามีเกิน 30-40% ของรายได้หรือไม่ และหากมีหนี้สินเกิน 40% ของรายได้ ธนาคารก็อาจจะพิจารณาไม่อนุมัติสินเชื่อให้กับคุณ ดังนั้น คุณจึงต้องจัดการหนี้เก่าให้เรียบร้อย เพื่อให้การขอสินเชื่อง่ายขึ้น

4. เตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายก้อนแรก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

การเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายก้อนแรก และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอื่น ๆ นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก โดยคุณควรจะเตรียมเงินไว้อย่างน้อย 20% ของราคาคอนโด เพื่อใช้สำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการกู้ซื้อคอนโด โดยมีทั้งหมด 4 ส่วน ดังนี้

  • ค่าใช้จ่ายช่วงตกลงซื้อคอนโด ได้แก่ ค่าจอง ค่าทำสัญญา ซึ่งค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับโครงการและโปรโมชันที่เลือก
  • ค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ค่าประเมินหลักประกัน ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ซึ่งค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับวงเงินกู้
  • ค่าใช้จ่ายช่วงโอน ได้แก่ ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าอากรแสตมป์ ค่าจดจำนอง
  • ค่าใช้จ่ายให้กับโครงการก่อนเข้าอยู่ ได้แก่ ค่ากองทุนส่วนกลาง ค่าส่วนกลางล่วงหน้า ค่าติดตั้งและประกันมิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า ซึ่งค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับโปรโมชันและข้อกำหนดของโครงการ

5. เตรียมเอกสารขอสินเชื่อให้พร้อม

การเตรียมเอกสารขอสินเชื่อให้พร้อม นับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่เกิดความล่าช้า หรือถูกปฏิเสธไป โดยเอกสารที่ต้องเตรียม มีดังนี้

เอกสารส่วนบุคคล

  • บัตรประชาชน/บัตรข้าราชการ/บัตรรัฐวิสาหกิจ
  • สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)

เอกสารทางการเงิน

  • หนังสือรับรองเงินเดือน/หนังสือผ่านสิทธิ์สวัสดิการ
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
  • สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน หรือหลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ พร้อมฉบับจริง
  • รูปถ่ายกิจการ
  • สำเนาทะเบียนการค้า
  • สำเนาใบประกอบวิชาชีพ

เอกสารหลักประกัน

  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาวางมัดจำ
  • โฉนดที่ดิน / นส.3ก / หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด / อช.2 ทุกหน้า
  • เอกสารอื่น ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด

เงินเดือนเท่านี้ ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่ดี?

ได้ทำความรู้จัก 5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนกู้ซื้อคอนโดกันไปแล้ว ต่อไปก็ได้เวลาของคำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนสงสัยก็คือ เงินเดือนเท่านี้ ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่ โดยสามารถคำนวณเบื้องต้นได้จากเงินเดือนและภาระหนี้สินที่มีอยู่ ตามสูตรดังนี้

“เงินเดือน x 40% – หนี้สินที่มีอยู่ = ความสามารถผ่อนชำระ”

ตัวอย่าง : หากคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท และมีภาระผ่อนรถยนต์เดือนละ 5,000 บาท 

จะคำนวณดังนี้ 30,000 x 40% – 5,000 = 7,000  เท่ากับว่าคุณมีความสามารถในการผ่อนคอนโดเดือนละ 7,000 บาท

เงินเดือนเท่านี้กู้ได้สูงสุดเท่าไหร่?

เงินเดือนของผู้กู้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อวงเงินที่ธนาคารจะอนุมัติให้อีกด้วย โดย CP LAND ได้รวบรวมตารางสรุปวงเงินที่ธนาคารจะอนุมัติให้สำหรับเงินเดือนแต่ละอัตรามาแนะนำ โดยคิดจากความสามารถในการแบกรับภาระหนี้อยู่ที่ 40% ดังนี้

รายได้ต่อเดือน

ความสามารถในการผ่อนต่องวด

วงเงินที่กู้ได้สูงสุด

15,000

6,000

900,000

20,000

8,000

1.2 ล้าน

25,000

10,000

1.5 ล้าน

30,000

12,000

1.8 ล้าน

35,000

14,000

2.1 ล้าน

40,000

16,000

2.4 ล้าน

45,000

18,000

2.7 ล้าน

50,000

20,000

3.0 ล้าน

55,000

22,000

3.3 ล้าน

60,000

24,000

3.6 ล้าน

65,000

26,000

3.9 ล้าน

100,000

40,000

6.0 ล้าน

150,000

60,000

9.0 ล้าน

*หมายเหตุ: สูตรคำนวณดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น หากผู้กู้ต้องการทราบข้อมูลแบบละเอียดชัดเจน แนะนำให้สอบถามเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ทำการขอสินเชื่อ

กู้ซื้อคอนโดพร้อมเข้าอยู่ กับโครงการคอนโดมากมายจาก CP LAND

และทั้งหมดนี้ก็คือเช็กลิสต์ 5 สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนกู้ซื้อคอนโดที่ CP LAND รวบรวมมาให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารพิจารณาและเลือกสินเชื่อกู้ซื้อคอนโดที่ตอบโจทย์กับคุณมากที่สุดและเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อได้ 

สุดท้ายนี้หากคุณกำลังมองหาโครงการน่าอยู่ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ที่มีการจัดสรรพื้นที่ภายในห้องไว้อย่างเป็นสัดส่วน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ตอบโจทย์ทุกอยู่อาศัย CP LAND ก็มีโครงการคอนโดคุณภาพดีบนทำเลศักยภาพให้คุณเลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนหลากหลายโครงการ และสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าเยี่ยมชมโครงการ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางดังนี้